Background



เกร็ดความรู้สู้โรค
ยาแก้ปวด ยาธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
17 พฤษภาคม 2555

290


ยาแก้ปวด ยาธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

ปวดหัว ปวดท้อง ปวดขา ปวดแขน ปวดฟัน อาการเหล่านี้เกิดได้กับทุกคน บางครั้งเป็นเพียงอาการรบกวนให้เรารู้สึกอึดอัด ไม่สบาย คนส่วนใหญ่จึงนิยมหายามารับประทานแก้ปวด ยาที่มักไได้รับการนึกถึงเป็นประจำ คือยา พาราเซตามอล แต่ยาแก้ปวดชนิดนี้ ไม่ได้เป็นเพียงยาแก้ปวดธรรมดาเพราะหากใช้ไม่ถูกต้องก็อาจเป็นอันตรายได้เช่นกัน

พาราเซตามอล(Paracetamol)

มีชื่อสามัญอีกชื่อหนึ่งคือ อะเซตามิโนเฟน(Acetaminophen) เป็นยาที่มีข้อบ่งใช้เพื่อบรรเทาอาการปวด ลดไข้ มีทั้งรูปแบบยาเม็ดและยาน้ำ ใช้กันอย่างแพร่หลาย รู้จักกันในชื่อการค้าต่างๆ มีทั้งรูปแบบยาเดี่ยวๆ หรือ ผสมกับยาคลายกล้ามเนื้อ แก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

ท่านทราบหรือไม่?

  • มียาสูตรผสมหลายชนิดในประเทศไทยที่มีพาราเซตามอลผสมอยู่ เช่น ผสมในยาแก้ไข้หวัด หรือผสมรวมกับยาคลายกล้ามเนื้อ/แก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยที่หลายคนไม่สังเกตฉลากยา
  • มีรายงานพบ การใช้ยาที่มีส่วนผสมของพาราเซตามอลซ้ำซ้อนกันจนอาจทำให้ได้รับยาพาราเซตามอลปริมาณเกินกว่าที่แนะนำไว้
  • การใช้ยาพาราเซตามอล เกินกว่าปริมาณที่แนะนำไว้อาจจะนำไปสู่การเกิดพิษต่อตับ และอาการจะแย่ลงจนนำไปสู่ภาวะตับวายเสียชีวิตในที่สุด
  • ผู้มีปัญหาการทำงานของตับที่ไม่สมบูรณ์ เช่น ผู้ทีดื่มสุรามาก ภาวะตับแข็ง เคยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ หรือการได้รับอะฟลาท็อกซินในอาหาร หรือช้ยาอื่นที่มีพิษต่อตับร่วมกับพาราเซตามอล โอกาสเกิดพิษย่อมมีมากขึ้น

หลัก 3 ประการเพื่อให้ปลอดภัยจากการกินยาพาราเซตามอล

  • กินในปริมาณที่เหมาะสม ปริมาณการใช้ยาพาราเซตามอลที่เหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่ คือไม่เกิน 1000 มิลลิกรัมต่อครั้ง และไม่เกิน 4000 มิลลิกรัมต่อวัน ยาพาราเซตามอลชนิดเม็ดทีมีขายในท้องตลาดส่วนใหญ่มีขนาด 500 มิลลิกรัมต่อเม็ด ดังนั้นผู้ใหญ่จึงไม่ควรกินพาราเซตามอลเกินกว่าครั้งละ 2 เม็ด และไม่เกิน 8 เม็ดต่อวัน กรณีการใช้ยาพาราเซตามอลในเด็ก ต้องคำนวณขนาดยาครั้งละไม่เกิน 10-15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม(ควรใช้ยาค่อนไปทาง 10 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม มากกว่าค่อนไปทาง 15 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม)
  • กินยาติดต่อกันในระยะเวลาที่เหมาะสม ผู้ใหญ่ห้ามรับประทานติดต่อกันเกิน 5-10 วัน เด็กห้ามรับประทานติดต่อกันเกิน 3-5 วัน แต่หากใช้แล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรรับปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัยในการรักษาอย่างถูกต้องที่ต้นเหตุต่อไป
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาพาราเซตามอลซ้ำซ้อนจนได้รับปริมาณเกินกำหนด